5 เทคนิคเลือกประกันอย่างไร เพื่อชีวิตวัยเกษียณของคุณพ่อคุณแม่
การเลือกซื้อ “ประกันชีวิต” ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ แต่ลูก ๆ หลายคนอาจจะรู้สึกปวดหัวกับการเลือกประกันชีวิตให้ผู้สูงวัย เพราะเงื่อนไขอาจซับซ้อน จึงมีความกังวลว่าจะเลือกผิดพลาดจากเป้าหมายที่ตั้งใจได้ อย่างไรก็ตาม การทำประกันไม่ใช่เรื่องที่ต้องรีบร้อนตัดสินใจ ควรใช้เวลาศึกษาข้อมูลให้ดี ที่สำคัญที่สุด คือการที่ต้องคุยคุณพ่อและคุณแม่ด้วย พวกเขาควรมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ
ทำไมการทำประกันชีวิตถึงสำคัญสำหรับคุณพ่อและคุณแม่?
– ความคุ้มครองทางการเงิน ประกันชีวิตช่วยให้คุณแม่มีเงินก้อนไว้ใช้ยามฉุกเฉินหรือยามชรา
– ค่ารักษาพยาบาล หากคุณพ่อคุณแม่เจ็บป่วย ประกันจะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย
– ความสบายใจ ทั้งลูกและคุณพ่อคุณแม่จะรู้สึกอุ่นใจว่ามีความคุ้มครองรองรับไว้แล้ว
5 เทคนิคเบื้องต้นสำหรับการเลือกประกันให้คุณพ่อและคุณแม่?
1. ต้องพูดคุยและสอบถามสุขภาพของคุณพ่อและคุณแม่
แม้ว่าเราจะมีข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับสุขภาพของพ่อแม่เราอยู่แล้ว แต่การพูดคุยและสอบถามความต้องการ รวมไปถึงสุขภาพของคุณพ่อคุณแม่เป็นสิ่งสำคัญอย่างมากก่อนทำประกัน เช่น นอกจากปัญหาสุขภาพที่ลูก ๆ รู้อยู่แล้ว คุณพ่อคุณแม่ยังมีอาการหรือโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ อีกหรือไม่ อีกทั้ง ต้องทราบถึงรายได้และค่าใช้จ่ายต่อเดือนเท่าไร คุณพ่อคุณแม่มีเงินออมมากน้อยแค่ไหน ซึ่งการรู้ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้เลือกแบบประกันและวงเงินคุ้มครองที่เหมาะสมได้ดียิ่งขึ้น
2. เลือกประเภทประกันให้เหมาะกับวัย
สำหรับคุณพ่อและคุณแม่ที่อายุ 50 ปีขึ้นไป อาจทำประกันประเภทบำนาญหรือประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ เพราะนอกจากจะได้ความคุ้มครองชีวิตแล้ว ยังมีเงินก้อนไว้ใช้ยามเกษียณด้วย แต่หากคุณพ่อและคุณแม่อายุน้อยกว่า 50 ปี อาจพิจารณาประกันแบบตลอดชีพ ซึ่งให้ความคุ้มครองยาวนานกว่าและมีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้มากกว่าในระยะยาว
3. เมื่อซื้อประกันชีวิตแล้ว อย่าลืมประกันสุขภาพ
ประกันสุขภาพมีความสำคัญมากสำหรับคุณพ่อและคุณแม่ โดยเฉพาะในยุคที่ค่ารักษาพยาบาลแพงขึ้นเรื่อย ๆ จึงควรหาแบบประกันที่รวมความคุ้มครองสุขภาพด้วย หรือซื้อประกันสุขภาพแยกต่างหาก โดยพิจารณาว่าครอบคลุมโรคที่คุณแม่มีความเสี่ยงหรือไม่ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ เป็นต้น
4. คำนวณวงเงินคุ้มครองให้พอดี
การเลือกวงเงินคุ้มครองเป็นเรื่องที่สำคัญมาก หากน้อยไปอาจไม่เพียงพอ แต่หากมากไปก็อาจเป็นภาระค่าเบี้ยประกันภัยที่สูงเกินไป วิธีคำนวณง่าย ๆ คือ ประมาณการค่าใช้จ่ายของคุณแม่ต่อปีคูณด้วยจำนวนปีที่คาดว่าจะมีชีวิตอยู่ แล้วบวกเพิ่มอีก 20 – 30% สำหรับค่าใช้จ่ายที่อาจเพิ่มขึ้นในอนาคต
5. เปรียบเทียบข้อเสนอจากหลายบริษัท
ก่อนตัดสินใจควรเปรียบเทียบข้อเสนอจากบริษัทประกันอื่น ๆ โดยพิจารณาเรื่องความคุ้มครอง เงื่อนไข และราคา
การทำประกันชีวิตสำหรับคุณพ่อและคุณแม่ไม่ใช่เพียงแค่การป้องกันความเสี่ยงเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความมั่นคงให้กับครอบครัวในระยะยาว ช่วยให้พวกเขามั่นใจได้ว่าคนที่พวกเขารักจะได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมหากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน
ความสำคัญของการทำประกันชีวิตจึงอยู่ที่การปกป้องความเป็นอยู่ที่ดีของครอบครัวในอนาคต และการสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตของลูกหลานในวันที่คุณพ่อหรือคุณแม่ไม่อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเอไอเอ ขอแนะนำ AIA SENIOR HAPPY “ทำง่าย จ่ายสบาย” ไม่ต้องตรวจสุขภาพ
เบี้ยประกันคงที่ตลอดสัญญา
จุดเด่นแผนประกันชีวิตผู้สูงอายุ AIA SENIOR HAPPY “ประกันชีวิตสำหรับผู้สูงอายุ 50 ปีขึ้นไป”
– สมัครได้แม้มีปัญหาสุขภาพ ไม่ต้องตรวจหรือตอบคำถามสุขภาพ
– สมัครได้ตั้งแต่อายุ 50 – 70 ปี คุ้มครองได้จนถึงอายุ 90 ปี
– เลือกความคุ้มครองได้ตั้งแต่ 50,000-200,000 บาท
– สามารถลดหย่อนภาษีได้
ที่มา : https://distribution.aia.co.th/th/iSay/ISAY_PROD_JUN24_12.html
สนใจทำประกัน เอไอเอ กดติดต่อกลับเพื่อกรอกแบบฟอร์ม ให้ตัวแทนแนะนำแบบประกันที่เหมาะกับคุณ